Featured

Happiness I เพราะสุข…จึงสำเร็จ

“ความสำเร็จ…อยู่ไกลแสนไกล” เราจึงควรจะเร่งออกเดินทางไปไขว้คว้า เพื่อโอบกอดความสุขที่ปลายทางนั้นให้ได้เพียงอย่างเดียว หรือ เราควรจะออกเดินทางอย่างละเมียดละไมและใส่ใจตลอดเส้นทาง เพื่อจะได้โอบกอดปลายทางที่งดงามไว้นาน ๆ พร้อมรอยยิ้มที่ระบายบนใบหน้าทุกครั้งที่หันกลับไปมองเส้นทางที่เดินผ่านมา

cover1

เรื่องนี้ทำให้ฉันนึกไปถึงการเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ผ่านมา ซึ่งฉันเลือก “ฟูจิซัง” เป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งของทริปด้วย มีคนรู้จักบางคนแนะนำให้ขึ้นไปชมความงามของฟูจิซังที่ชั้น 5 เพราะให้ความรู้สึกว่าได้มาถึงจริง ๆ ฉันเดาว่าคงเหมือนเวลาที่ไปเที่ยวที่ไหน ๆ แล้วต้องถ่ายรูปกับป้ายชื่อสถานที่นั้น ฉันฟังแล้วยิ้มๆ พลางคิดในใจว่านี่ถ้าไปในช่วงฤดูร้อนคงได้รับคำแนะนำให้ไปลองปีนเขาเพื่อพิชิตยอดฟูจิซังแน่ ๆ จะได้ชื่อว่ามาถึงฟูจิซังอย่างแน่แท้ ซึ่งนั่นอาจเป็นมาตรวัดความสุขและความสำเร็จของใครบางคน แต่สำหรับฉันแล้วไม่ว่าจะอย่างไรฉันก็ยังยืนยันเช่นเดิม เพราะฉันเชื่อว่าเส้นทางความสุขและความสำเร็จของคนเรานั้นต่างกันขึ้นอยู่กับองศาที่ต่างมองเห็น

IMG_9377 copy

มาพูดถึงความสำเร็จกันก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้คนสมัยนี้ต่างให้ความสนใจและขวนขวายมาครอบครอง ทุกคนรู้กันดีอยู่ว่า ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาอย่างง่ายดาย  แต่แล้วทำไมคนมากมายไม่มีความสุขทั้ง ๆ ที่ชีวิตประสบความสำเร็จ! เรื่องนี้เป็นข้อสงสัยที่คาใจฉันมาแสนนาน มันพ่วงมากับคำถามที่ว่า แล้วเราควรจะมีความสุขก่อนแล้วถึงจะประสบความสำเร็จ? หรือ เราควรจะมีความสำเร็จก่อนแล้วค่อยประสบความสุข?

เชื่อเหลือเกินว่าคนจำนวนมากรวมทั้งตัวฉันเองที่เดิมทีมักคิดว่า ความสุข และ ความสำเร็จ เป็นความสัมพันธ์ที่ห่างไกลกันเหมือนอยู่คนละฟากฟ้า คนส่วนใหญ่มักคิดว่าชีวิตต้องประสบความสำเร็จก่อนจึงจะนำทางไปสู่ความสุขได้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะเห็นผู้คนจำนวนมากที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะด้านการงาน ชื่อเสียง ฐานะทางการเงิน ความเป็นอยู่ ครอบครัว การได้รับการยอมรับในสังคม จะดิ้นรนไขว่คว้าจนหน้าดำคร่ำเครียดเพื่อไปถึงปลายทางให้เร็วที่สุด เพราะผู้คนเหล่านั้นคิดว่าเมื่อตนเองประสบความสำเร็จแล้ว จะทำให้เกิดความสุขอย่างที่ใจปรารถนาตามมา ซึ่งความสุขก็มักเกิดขึ้นตามมาจริง แต่เป็นความสุขชั่วเดี๋ยวเดียว แล้วหลังจากนั้นก็มักจะเริ่มบ่นถึงความทุกข์ เพราะหมดไฟ หมดความกระตือรือร้นที่จะทำอะไรต่อไป และหากไม่เฉาไปเลยก็จะดิ้นรนขวนขวายหาความสำเร็จขั้นสูงขึ้นไปเพื่อตามหาความสุขที่ไม่สิ้นสุด เหมือนพยายามไต่ขึ้นไปถึงยอดเขาแล้ว ยังดันไปมองเห็นยอดเขาอื่นที่อีกคนกำลังปีนป่าย เลยรู้สึกว่าอ้าว! ยังไม่สุขที่สุดเลยนี่

แล้วความสุขคืออะไรกันแน่ ? แล้วมันควรจะอยู่แห่งหนตำบลใดในชีวิตเรานะ ?

ศูนย์สุขภาวะทางจิต คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ได้ให้นิยามความสุขไว้ว่า วามสุขนั้นเป็นสภาวะที่บุคคลรับรู้ว่าตนเองได้ทำในสิ่งที่ตนต้องการและทำได้สำเร็จ มีความเป็นตัวของตัวเอง มีความภาคภูมิใจในการกระทำของตน มีความคิดเชิงบวก มีความกระตือรือร้นในการดำเนินชีวิตที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี การพัฒนาตน การมีสัมพันธภาพที่ดีกับคนรอบข้างและสังคม สามารถดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงและมีใจที่สงบ (www.chulawellness.com)

ดูจากความหมายข้างต้นแล้วฉันเห็นว่า ความสุข ไม่น่าจะหมายถึงการอยู่นิ่ง ๆ สบาย ๆ ไม่ทำอะไรไปวัน ๆ หรือ การเอาแต่เที่ยวเตร่ ช็อปปิ้ง ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อยอย่างแน่นอน แต่คำว่า ความสุข นั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับทัศนคติ การมองโลกในแง่ดี มีความพึงพอใจในตนเอง พร้อมๆ กับการก้าวไปข้างหน้าอย่างกระตือรือร้นและมีเป้าหมายในชีวิต โดยไม่ลืมเรื่องของความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างในแง่ของการแบ่งปันความรู้สึก รวมถึงความจริงใจ และกล้าที่จะไว้วางใจผู้อื่นได้

IMG_1608 copy

ส่วนคนที่ชอบมองสิ่งต่าง ๆ ในแง่ลบ คอยหาแต่จุดอ่อนของคนรอบข้าง หรือ มองเห็นแต่ปัญหารอบด้านแล้วหยิบยกขึ้นมาเป็นอุปสรรคในชีวิต ต่อให้คนเหล่านั้นเก่งแสนเก่งขนาดไหนหรือมุ่งมั่นขนาดไหนก็คงจะมีความก้าวหน้าได้แค่เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะมัวแต่วิตกกังวลกลัวไปหมดทุกสิ่งและยังไม่เคยคิดชื่นชมคนอื่น ๆ ด้วยความจริงใจ จิตที่คิดลบตลอดเวลาก็จะเป็นพลังดึงดูดแต่ปัญหาและอุปสรรคมาให้เราเสมอ เปรียบเสมือนว่าถ้าคนกลุ่มนี้จะต้องปีนขึ้นยอดเขาฟูจิซัง เขาจะรู้สึกวิตกกังวลกลัวจะพลาด กลัวเจ็บ กลัวคนหัวเราะเยาะ กลัวคนอื่นไปถึงก่อน หากอุปกรณ์ไม่ครบ หรือ เผชิญอากาศที่หนาวเหน็บ เขาจะรีบยกมาเป็นข้ออ้างที่จะเลิกเดินหน้าต่อได้ง่าย ๆ และคนกลุ่มนี้จะพบปัญหาไม่รู้จบในการเดินทางด้วยสายตาที่มองหาและเห็นแต่เรื่องร้าย ๆ ในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งมองโลกในแง่บวก มีทัศนคติว่าทุกอย่าง “ทำได้” ไม่ท้อถอยเมื่อเจอปัญหา ไม่มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอุปสรรคแต่กลับมองเป็นความท้าทาย มองอย่างชื่นชมเพื่อนร่วมทางที่เก่งกว่าเป็นแบบอย่าง คนกลุ่มนี้จะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หวั่นไหว มีพลังมุ่งมั่น อดทน พัฒนาตนเอง และมองเห็นโอกาสที่จะไปให้ถึงยอดเขาอยู่เสมอ ทั้งยังพร้อมที่จะแบ่งปันทั้งความล้มเหลว ความสุขระหว่างทาง รวมถึงความสำเร็จที่ยอดเขาให้กับคนอื่นๆ อย่างภาคภูมิใจ

IMG_5355 copy

เช่นนั้นแล้วการเลือกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและรู้สึกดีพร้อมใส่ใจกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายตั้งแต่จุดแรกเริ่มที่จะออกเดิน บนระหว่างทางที่เดิน และแม้กระทั่งในขณะที่ได้ประสบพบเจอความสำเร็จนั้น  จะทำให้เรามีพลังที่มุ่งมั่นและอยากที่จะทำสิ่งเหล่านั้นอย่างมีความสุข อดทนและยาวนานได้มากขึ้น เพราะแน่นอนว่าปลายทางความสำเร็จนั้นมักยาวไกลกว่าที่จินตนาการไว้เสมอด้วยมีความกลัวและกังวลปะปนอยู่ด้วย หากไม่มีความสุขกับความรู้สึกที่ดีดีกับสิ่งที่ทำและเรื่องราวต่าง ๆ ที่รายล้อมอยู่ก็จะอดทนได้น้อยลงและนำไปสู่การล้มเลิกอย่างง่ายดาย  และเมื่อปีนป่ายไปถึงยอดเขาได้แล้วเราจะซึมซับความสวยงามของทิวทัศน์แห่งความสำเร็จนี้ได้อย่างละเมียดละไมยาวนานยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ปลายทางนั้นเป็นผลลัพธ์รวมของความสำเร็จในก้าวเล็ก ๆ หลาย ๆ ก้าวที่สวยงามในระหว่างการเดินทางขึ้นเขา

IMG_5375 copy

ไม่ว่ายอดเขาแห่งความสำเร็จนั้นจะเป็นการพิชิตยอดฟูจิซัง หรือ การสัมผัสฟูจิซังที่ชั้น 5 หรือ การชื่นชมฟูจิซังจากทะเลสาบคาวากูจิ ก็ล้วนเป็นเป้าหมายที่ผู้คนต่างเลือกแล้วตามความสุขและความรู้สึกดีดีภายในใจของตนเอง ซึ่งการมีความสุขในระหว่างการเดินทางนั้น ๆ ก็เป็นเสมือนโอโซนชั้นเลิศที่คอยหล่อเลี้ยงก้าวเล็กๆ ของความสำเร็จให้มีพลังมุ่งมั่นจนถึงปลายทาง และนั่นจะยิ่งทำให้เราได้สูดความสุข ณ จุดหมายปลายทางแห่งความสำเร็จได้อย่างเต็มปอดและยาวนานขึ้น

IMG_1620 copy

แล้วแบบนี้ ฉันจะไม่เลือกที่จะสุขตั้งแต่เริ่มต้นก้าวแรกได้อย่างไร…และนี่คือ เส้นทางหนึ่งของการเดินทางสู่ยอดเขาแห่งความสำเร็จในนิยามที่ฉันเลือกทำแล้วมีความสุขและรู้สึกดีดี คือ การสร้างโอกาสให้ตัวเองได้ส่งมอบความสุขผ่านตัวอักษรให้ผู้คนได้สัมผัส และคอยขอบคุณและชื่นชมผู้คนรายรอบที่เป็นต้นแบบแห่งความสุขในใจฉันอยู่เสมอไม่ว่าความสุขเหล่านั้นจะเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่ก็ตาม…รู้สึกขอบคุณและรักผู้อ่านทุกคนที่ตั้งใจอ่านจนจบนะคะ 

ตีพิมพ์ในนิตยสาร “คู่บ้าน” เดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ ปี 2558 ฉบับ 51 (ปรับปรุง)

WordPress Post

Featured

HAPPINESS / สุข…ดีไซน์

ตีพิมพ์ในคอลัมน์ “Happiness”
นิตยสาร “คู่บ้าน” ฉบับที่ 53 เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2558

IMG_2763 copy

แน่นอนว่าการได้อยู่ในสภาวะทิ้งตัวลงท่ามกลางธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่สุขที่สุดในความรู้สึกของฉัน แต่ในขณะเดียวกันการได้ลิ้มรสความสุขที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของมนุษย์อย่างเราๆ ทั้งในด้านความสวยงามและความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตได้ด้วยอย่างที่เรียกได้ว่า สวยดีมีฟังก์ชั่นนั้นก็นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หัวใจของฉันพองโตได้เสมอ

20150501_062443534_iOS copy

Nothing to see here, please go away. ข้อความเก๋ ๆ บนป้ายแขวนประตูในห้องพักโรงแรม Comfort Hotel Xpress Central Station เมื่อคราวไปเยือนออสโล เมืองหลวงประเทศนอร์เวย์ เป็นสัญญาณการไล่แขกที่มาพักให้ออกไปหาประสบการณ์ความสุขของการเดินทางนอกที่พักกันแทนที่จะมัวแต่นอนอยู่ในโรงแรม แม้ว่าโรงแรมแห่งนี้จะได้รับการออกแบบมาอย่างเก๋ไก๋และฟังก์ชั่นเลอเลิศแค่ไหนก็ตามที ทางโรงแรมก็จะผลักไสให้ผู้มาเยือนออกไปใช้ชีวิตนอกที่พักซึ่งมีเรื่องราวมากมาย ทั้งที่เป็นเรื่องราวความสวยงามในแบบของ ”ธรรมชาติ” ดีไซเนอร์ระดับโลก และความสวยงามที่เป็นผลงานการออกแบบของดีไซเนอร์ “มนุษย์” ก็ตาม

20150501_071438301_iOS copy 20150502_082406398_iOS copy

37766006 copy

ฉันเป็นคนหนึ่งที่นอกจากจะหลงใหลในธรรมชาติชนิดที่โงหัวไม่ขึ้นแล้ว อีกมุมนั้นฉันก็ยังแอบปันใจไปชื่นชมและชื่นชอบผลงานการออกแบบสร้างสรรค์ของเหล่าบรรดามนุษย์ที่เรียกตัวเองว่าดีไซน์เนอร์ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มคนที่มีไอเดียแปลกใหม่เก๋ไก๋ล้นเหลือในการออกแบบสิ่งต่าง ๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นผลงานทางด้านออกแบบผลิตภัณฑ์ งานออกแบบตกแต่งภายใน งานสถาปัตยกรรม ตลอดจนผลงานประติมากรรมต่าง ๆ

DSCF0591 copy

ทันทีที่ได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศไม่ว่าจะมุมใดในโลกใบนี้ ฉันจึงไม่พลาดที่จะหาโอกาสออกไปชื่นชมผลงานการออกแบบในดินแดนต่างวัฒนธรรมเหล่านั้นด้วยทุกครั้ง เพราะนอกจากจะทำให้ได้เห็นงานออกแบบที่สวยงามแปลกตาแล้วและได้ความรื่นรมย์ไปกับผลงานที่ทรงคุณค่าในแง่ความหมายและความทรงจำของผู้คนในท้องถิ่นนั้นเองแล้ว ยังเสมือนว่าฉันกำลังนั่งลงแล้วเท้าคางฟังเรื่องราวต่าง ๆ ของผู้คนและบ้านเมืองเหล่านั้น ผ่านงานออกแบบต่าง ๆที่กำลังพูดคุยเล่าเรื่องให้ฉันฟังภายใต้ความเงียบสงบ สิ่งเดียวที่ฉันควรจะทำคือนิ่งและตั้งใจฟังให้มากไปกว่าการสร้างความนึกคิดให้ล่องลอยไปเอง ผลงานการออกแบบที่สร้างสรรค์เหล่านั้นจึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังได้ทำหน้าที่ของตัวมันเองให้สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อให้ผู้คนที่ผ่านเข้ามามีประสบการณ์ร่วมได้ชื่นชมและรับรู้ถึงความสวยงามและทรงคุณค่าของงานออกแบบนั้น

DSCF0570 copy

แม้ฉันอาจจะไม่เข้าใจผลงานออกแบบต่างๆ เหล่านั้นได้อย่างลึกซึ้งนัก แต่ฉันก็สัมผัสได้ถึงเรื่องราวบางอย่างได้จากรูปร่าง พื้นผิว ที่ว่าง และแสงเงาที่ทอทอดผ่านเท่าที่ประสบการณ์ในชีวิตของฉันจะตีความหมายได้ และนั่นก็ท้าทายต่อมความสุขของฉันให้หลั่งสารอะดรีนาลีนได้ไม่น้อย

DSCF0630 copy

ศิลปะและงานออกแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลงานการออกแบบของธรรมชาติหรือมนุษย์ก็ตาม เลยกลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้ฉันได้เข้าใจถึงวิถีความสุขที่แตกต่างกันของคนต่างถิ่นต่างความคิดได้มากยิ่งขึ้นด้วย และมันสามารถกลั่นกลายเป็นความสุขพองฟูในหัวใจฉันทุกครั้งที่ได้ไปสัมผัสผลงานเหล่านั้น

DSCF0600 copy

แล้วฉันจึงได้รู้ว่า เมื่อมนุษย์เราสามารถออกแบบสร้างสรรค์อะไรได้ตั้งมากมายก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยากอะไรที่ฉันจะเลือกออกแบบประสบการณ์ของความสุขให้กับตัวเองด้วย เพราะจะว่าไปชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกับผลงานการออกแบบของดีไซน์เนอร์มือฉมังที่เป็นตัวเรานั่นเอง ที่จะเลือกมองเห็นความสุขจากทุกๆ สิ่งรอบๆ ตัวไม่ใช่มัวแต่รอคอยให้สิ่งดีดีเข้ามาในชีวิตเท่านั้น หัวใจของเราต่างหากที่จะพาตัวเองไปสู่ความสุขในรูปแบบที่เราออกแบบเอง เลือกเอง

IMG_2799 copy

ใช่แล้วล่ะ! ฉันชักจะเห็นด้วยกับข้อความบนป้ายที่พักในโรงแรมขึ้นมาทันทีว่า ปลายทางของนักเดินทางอย่างฉันนั้นคือการออกแบบความสุขให้กับชีวิตตัวเองด้วยการออกไปสัมผัสประสบการณ์งานออกแบบที่ทรงคุณค่าของเรื่องราวต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นผลงานมีฝีมือของธรรมชาติหรือมนุษย์ก็ตาม ความสุขจึงไม่ได้หยุดไว้แค่การได้พักในโรงแรมเก๋ๆ ชิคๆ เท่านั้น

++++++มาออกแบบความสุขในแบบที่หัวใจเราต่างเพรียกหา…กันเถอะ+++++

Happiness I เพราะสุข…จึงสำเร็จ

Source: Happiness I เพราะสุข…จึงสำเร็จการมีความสุขในระหว่างการเดินทางนั้น ๆ ก็เป็นเสมือนโอโซนชั้นเลิศที่คอยหล่อเลี้ยงก้าวเล็กๆ ของความสำเร็จให้มีพลังมุ่งมั่นจนถึงปลายทาง และนั่นจะยิ่งทำให้เราได้สูดความสุข ณ จุดหมายปลายทางแห่งความสำเร็จได้อย่างเต็มปอดและยาวนานขึ้น

Happiness I ความสุขหลาก…ลาย

IMG_4699 copy
เรื่องราวชีวิตเดิม ๆ ในแต่ละวันอาจทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกเบื่อหน่าย เพราะมันกลายเป็นความคุ้นชินที่เรามักจะมองข้ามความสด ความใหม่ ความสนุก ความสวยงาม ความมหัศจรรย์ จนกระทั่งหาความสุขไม่เจออีกแล้วก็เป็นได้
แต่หากเราลองเปิดใจอีกสักนิด…แล้วเปลี่ยนมุมมองความปรกตินั้นห่าง ๆ บ้าง บางทีเราอาจค้นเจอ ความสุขใหม่ ๆ จากเรื่องราวเดิม ๆ เหล่านั้นก็เป็นได้
IMG_4700 copy
นึกถึงครั้งที่ฉันไปเที่ยวชม The Flower Dome กับ Cloud Forest Dome ที่ Gardens by the Bay สิงคโปร์นั้น ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าบ้านนี้เมืองนี้เค้าคิดอะไร ถึงได้ทำโดมอวดพันธุ์ ไม้นานาชนิดใหญ่โตขนาดนี้  เมื่อได้เข้าไปภายในโดมพันธุ์ไม้นั้นมันทำให้ฉันต้องตะลึงและทึ่งกับภาพตรงหน้า สุดท้ายก็ได้พบอีก เรื่องราวที่น่าสนใจของมวลมหาพืชไม้นานาพรรณเหล่านั้น บางคนอาจจะคิดว่าจะเข้าไปดูทำไมกัน มันก็เหมือน ๆ กับต้นไม้บ้านเรานั่นแหละแถมบ้านเรายังมีป่า มีต้นไม้หลากหลายมากกว่าเสียอีก  ฉันกลับคิดไปว่า…มันอาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนกันก็แล้วแต่ หากเรารู้จักเปลี่ยนมุมและปรับ ระยะในการมองบ้าง แล้วหันมาใช้ความรู้สึกสัมผัสแทนสมองบ้าง บางทีเราอาจจะได้พบเห็นอะไร ใหม่ ๆ ก็เป็นได้
GB-01 copy
ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์และดอกไม้หลากสีเหล่านั้นสร้างความรู้สึกชื่นมื่นและรื่นรมย์ให้กับ ฉันได้ไม่น้อยเลย อันที่จริงความรู้สึกแบบนี้หาได้ง่ายมาก ๆ ที่บ้านเรา  แต่พอเดินมาถึงกลุ่มไม้ประเภทปาล์มขวดไม้ดัด แคคตัส รวมไปถึงกลุ่มไม้ดอกต่าง ๆ ที่มีเป็นหมื่น ๆ พัน ๆ ต้น หลายร้อยสายพันธุ์เหล่านั้น ฉันอดแปลกใจไม่ได้ว่าในความสวยงามละลานตานี้ ทำไม กิ่งก้าน ดอก ผลของต้นไม้เหล่านั้นถึงได้จัดวางส่วนต่าง ๆ ของตนได้เป็นระเบียบเรียบร้อยพอเหมาะพอเจาะสวยงามมากเหมือนลวดลายกราฟิกในแบบต่างๆ ที่มีศิลปินหรือกราฟิกดีไซเนอร์มือดีสักคนบรรจงวาดและวางกลีบดอกกลีบใบให้เรียงสลับกันได้พอดิบพอดีงดงามลงตัวก็ไม่ปาน เพื่อคลายความ สงสัยที่คับข้องใจก็ต้องรีบกลับมาถามอาจารย์กู(เกิ้ล)ผู้หยั่งรู้
IMG_4702 copy
หากใครที่เรียนสายวิทย์ฯ-คณิตฯ ก็คงคุ้นเคยดีกับตัวเลขฟีโบนักซี ของ ลีโอนาร์โด ดา ปีซา
นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี ที่ได้สังเกตและศึกษาปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่าง ๆ เช่น รูปแบบของดอก ไม้ ผลไม้ อัตราส่วนระหว่างเส้นผ่าศูนย์กลางของเกลียวเปลือกหอย และอื่น ๆ จนพบว่า ปรากฏการณ์เหล่านี้มีรูปแบบที่เป็นปกติและค่อนข้างสม่ำเสมอเมื่อนำมาคิดเป็นตัวเลขทางคณิตศาสตร์จะได้ลำดับเลข 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 58, 89, 144,… และต่อไปเรื่อยๆ หรืออาจจะมีจำนวนกลีบดอกตรงกับจำนวนเท่าของลำดับเลขฟีโบนักซีดังกล่าว (ที่มา:http://www.panmai.com/)
GB-02 copy
เหตุนี้เองกลีบดอกเหล่านั้นจึงเรียงตัวกันได้แบบสับหว่างเป๊ะ ๆ ฉันเพิ่งเข้าใจก็ตอนนี้เองว่าธรรมชาติ ไม่ได้สวยแบบสะเปะสะปะ หรือสวยเพราะแค่มีลวดลายหลากหลาย แต่กลับมีการจัดวางและแบบแผน สม่ำเสมออย่างน่าอัศจรรย์มาเป็นกรอบของความงาม สิ่งนี้นี่เองที่เราเรียกกันว่า งดงามตามธรรมชาติ…เป็นความงามที่ผสานกันอย่างลงตัวทั้งศาสตร์และศิลป์ จะว่าไปแล้วเหตุผลหนึ่งที่ผู้คนในยุคไฮเทคเริ่มกลับไปโหยหาความสุขจากธรรมชาติมากขึ้น ก็คงเป็น เพราะความห่างเหินจากธรรมชาติ จนมองว่าธรรมชาตินั้นเป็นเรื่องแปลกใหม่น่าตื่นเต้นทั้งที่เราต่างเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติมาแต่เริ่มแรก หากเมื่อเรามองธรรมชาติในระยะที่ห่างออกมา เรากลับโฟกัสความงามของธรรมชาติได้ดีขึ้น สังเกต ธรรมชาติได้ชัดมากขึ้นจนมองเห็นรายละเอียดของความสวยงามที่หลากลวดลายนั้น เมื่อพบว่ามแบบ แผนซ้ำ ๆ ที่คอยเรียงร้อยกลีบดอกหลากลายสีสดไว้จนเกิดเป็นความงดงามที่ลงตัวและเฉพาะตัว นั่นช่างไม่ต่างอะไรกับวิถีชีวิตเดิม ๆ ที่ทำให้ใครหลายคนอาจคิดไปว่าความเป็นปรกติสม่ำเสมอในทุกวัน ของชีวิตตนนั้นช่างเป็นเรื่องน่าเบื่อ ดันเผลอไปคิดซับซ้อนเองว่าชีวิตที่ดีมีความสุขต้องเยอะ ต้องยาก ต้องซับซ้อนไว้ก่อน น่าจะลองหันมาเปลี่ยนมุมและปรับระยะในการมองชีวิตบ้างจะดีมั้ย? บางทีเราอาจมีตาวิเศษที่สามารถสัมผัสความสุขจากความสวยสดงดงามบนถนนสายเดิม บ้านหลังเดิม งานเดิมๆ เพื่อนคนเดิม ที่ซุกตัว อยู่ในซอกหลืบของความรู้สึกเดิมก็เป็นได้
IMG_4704 copy
เมื่อ…ความซ้ำ เป็นความเรียบง่ายตามวิถีธรรมชาติที่รังสรรค์ให้เกิดเป็นความงดงามแล้ว ความ ง่าย ก็น่าจะเป็นความงามของชีวิตคนเราที่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเช่นกัน แล้วเราจะเห็นว่ากลีบ ลายความสุขของชีวิต ไม่ได้อยู่ที่ความแปลกใหม่ในทุกนาทีแต่อยู่ที่การให้ความหมายกับความรู้สึกที่ หลาก…ลายในแต่ละก้าวของชีวิตนั่นต่างหาก

Happiness | ตีความ…สุข

คอลัมน์ “Happiness” ในนิตยสาร “คู่บ้าน” ฉบับที่ 54 เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2558
IMG_5076_FB
I hope you always find a reason to smile…กว่าริมฝีปากเราจะเผยอยิ้มน้อยๆ ได้แต่ละครั้ง หลายคนอาจต้องแสวงหาเหตุผลมากมายให้กับรอยยิ้มในแต่ละแย้ม แต่หลายครั้งเราอาจเริ่มต้นที่จะมีความสุขจากรอยยิ้มแรกที่มอบให้ตัวเองในแต่ละวัน อยู่ที่ว่า…เราให้ความหมายของยามเช้าในแต่ละวันอย่างไร
20150503_094615000_iOS_FB
ทันทีที่ผลักบานประตูสีแดงสดเข้าไปในร้านกาแฟเก่าแก่ใจกลาง เรคยาวิก (Reykjavik) เมืองหลวงสุดอินดี้ของประเทศไอซ์แลนด์ กลิ่นหอมละมุนของเครื่องดื่มสีดำรสเข้มก็โชยมาแตะจมูกเรียกภาพแห่งจินตนาการแห่งความสุขให้แล่นเข้าสู่กระแสเลือดแล้วฉายชัดในสมองซีกขวา
20150503_100314000_iOS_FB
ที่ร้าน Mokk-Koffi คาเฟ่แอนด์อาร์ตแกลอรี่แห่งนี้ อาจไร้ซึ่งวี่แววของความทันสมัยในแบบตะวันตกที่เราพบเห็นได้ทั่วไป แต่กลับอบอวลไปด้วยกลิ่นไอแห่งความหอมละมุนละไมของกลิ่นกาแฟ ไอร้อนกรุ่นของวาฟเฟิล และอุ่นไอของงานไม้ที่ตกแต่งโดยรอบและรอคอยโอบกอดเหล่าผู้มาเยือน สิ่งเหล่านี้เรียกรอยยิ้มบางๆ แต่อิ่มเอิบใจของผู้คนที่ได้มีโอกาสแวะมาสัมผัสโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดใดมาฉุดกระชากรอยยิ้ม

20150503_094525000_iOS_FB

ที่นี่ไม่มีร้านกาแฟเชนสุดชิกที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในบ้านเรา หลายคนคงเริ่มคิด…แล้วมันจะฟินได้อย่างไรกันเล่า? กับร้านกาแฟเล็กๆ ไม่มีคนแนวๆ Check-in ไปก็ไม่มีเพื่อนในโซเชียลเน็ตเวิร์กคลิกไลค์ให้

20150503_100557000_iOS_FB

การได้มาที่นี่นั้นไม่ใช่เพราะหาร้านกาแฟเชนสุดชิกที่ว่านั่นไม่ได้ แต่หากเป็นเพราะในแต่ละขณะของชีวิตเรานั้นเราต้องการร้านกาแฟที่ตอบโจทย์ความพอใจเราในแบบที่แตกต่างกัน และสำหรับความรู้สึกของฉันในห้วงเวลาของการเดินทางเช่นนี้ ร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีบรรยากาศเป็นแบบฉบับของตัวเองแบบนี้ กลับทำให้เมืองแห่งนี้มีชีวิตชีวามากขึ้น และด้วยบุคลิกเฉพาะของร้านกาแฟเล็กๆ นี่เองที่ชวนให้คนต่างเมืองอย่างฉันเผลอไผลหลงใหลในเสน่ห์ของเมืองนี้แบบโงหัวไม่ขึ้น ทำให้อยากนั่งชิลล์เอ้าท์ค่อยๆ ละเมียดรสกาแฟอย่างดื่มด่ำไปเรื่อยๆ
IMG_5079_FB
และนั่นทำให้ฉันอดคิดถึงร้านกาแฟเล็กๆ ที่อยุธยาเสียไม่ได้ บ้านข้าวหนม เป็นร้านกาแฟชื่อเก๋ๆ บรรยากาศกันเองตกแต่งอย่างคลาสสิกสไตล์กรุงศรีอยุธยาเมืองเก่า กลิ่นกาแฟหอมละมุนไม่แพ้กัน แต่มีเสน่ห์ที่เทียบกันไม่ติดกับการเสิร์ฟพร้อมขนมหวานแบบไทย ๆ ที่ยังห่อใบตองอย่างละเมียด อย่างเช่น ข้าวเหนียวมูลหน้าสังขยา หน้ากุ้ง หน้าปลา รวมไปถึงขนมห่อ ขนมตาล เป็นต้น ร้านเล็กแต่มีผู้คนแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย บ้างนั่งคุยสานสัมพันธ์กันกับเพื่อนเก่า บ้างนัดมาคุยงานกัน บ้างก็มานั่งผ่อนคลายเครียดกับหนังสือคู่ใจ ขากลับซื้อขนมห่อสวยๆ ติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านให้ได้ลิ้มรสความสุขไปด้วยกัน

IMG_5080_FB

แต่บางวันบางโอกาส…ร้านกาแฟเชนใหญ่ก็ตกเป็นเป้าหมายสำคัญของฉันได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้น เวลานั้นฉันให้ความหมายและคุณค่าของร้านกาแฟเชนใหญ่อย่างไร ก็คงหนีไม่พ้นการพึ่งพิงร้านกาแฟเชนใหญ่ในเรื่องของการใช้ Laptop เนื่องจากต้องใช้ปลั๊กไฟ ซึ่งหากเป็นร้านกาแฟเล็กๆ นั้น ก็คงไม่สะดวกที่จะให้บริการได้ หรือ ตอนนี้บางทีอาจพึ่งพาทางเลือกใหม่ ถ้าวันไหนที่ไม่ขี้เกียจจนเกินไปฉันก็แวะเวียนไปใช้บริการของ Coworking Space ซึ่งตอนนี้มีให้บริการกันทั่วบ้านทั่วเมืองโดยเฉพาะในเมืองกรุงแห่งนี้
การให้ความหมายของความสุขที่จะช่วยฉุดรอยยิ้มขึ้นที่ริมฝีปากคนเราได้นั้น ก็คงไม่ต่างอะไรจากการเลือกเข้าร้านกาแฟสักร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านแบบไหนก็ตามก็พร้อมที่จะสร้างความสุข ความพอใจ และรอยยิ้มให้แก่เราได้เสมอ อยู่ที่ ณ ขณะนั้นเราให้ความหมายแก่ความสุขในมุมมองไหน หากเราไม่ได้วัดขนาดของก้อนความสุขที่ความใหญ่โตของร้านกาแฟ ความสะดวกสบาย หรือ ความนิยมชมชอบของคนอื่นๆ เสมอไปแล้วละก็ ร้านกาแฟแต่ละร้านก็คงสามารถตอบโจทย์ความสุข ความสบายใจให้เราได้ไม่มากก็น้อยในแง่มุมเฉพาะที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะด้วยรสชาติของกาแฟหรือบรรยากาศที่โอบกอดเราไว้ ณ ขณะนั้น
ชีวิตคนเราก็เช่นกัน เราเลือกได้ที่จะมีความสุขกับเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่มากก็น้อย อยู่ที่ว่าเราจะมองเรื่องราวนั้นๆ จากมุมไหน เลือกที่จะมองมุมที่สร้างรอยยิ้มให้กับตัวเอง ด้วยการแจกยิ้มให้มันก่อน หรือ เลือกที่จะมองมุมที่สร้างริ้วรอยความชราและหมองหม่นให้กับตัวเอง มาถึง ณ บรรทัดนี้ ฉันหวังอย่างยิ่งว่า..เธอจะหาเหตุผลที่ดีพอให้กับรอยยิ้มในแต่ละวันได้บ้างนะ